เสื้อกันฝน กับ ทุกสิ่งที่คุณควรรู้

ประวัติความเป็นมาของเสื้อกันฝน
เสื้อกันฝนถือเป็นหนึ่งในเสื้อผ้าที่เก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์พัฒนาเพื่อป้องกันตัวเองจากสภาพอากาศไม่พึงประสงค์ การใช้วัสดุธรรมชาติเพื่อกันน้ำเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ยุคโบราณ ชาวพื้นเมืองในหลายภูมิภาคใช้ใบไม้และสัตว์ป่ามาทำเสื้อกันฝนอย่างง่าย ๆ

การพัฒนาเสื้อกันฝนที่ใช้วัสดุสังเคราะห์เริ่มต้นในยุควิคตอเรีย โดยเฉพาะในปี 1824 เมื่อชาวสก็อตแลนด์นามว่า ชาร์ลส์ แม็คอินทอช (Charles Macintosh) ได้พัฒนาเสื้อกันฝนจากการเคลือบผ้าด้วยยางพารา นวัตกรรมนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเสื้อกันฝนในปัจจุบัน

ประเภทของเสื้อกันฝน
เสื้อกันฝนพลาสติก: ทำจากพลาสติก PVC หรือ PEVA น้ำหนักเบา ราคาถูก พกพาสะดวก แต่ไม่ทนทานและระบายอากาศไม่ดี

เสื้อกันฝนยางพารา: เป็นเสื้อกันฝนที่ทนทานและกันน้ำได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพอากาศรุนแรง แต่มีน้ำหนักมาก

เสื้อกันฝนพับได้: ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการพกพา มักทำจากวัสดุน้ำหนักเบาและสามารถพับเก็บได้เล็ก

เสื้อกันฝนแฟชั่น: เป็นเสื้อกันฝนที่ออกแบบให้ดูดีและมีสไตล์ เหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง โดยจะมีดีไซน์ที่หลากหลาย

เสื้อกันฝนแบบเทคนิค (Technical Rain Jackets): ทำจากวัสดุเทคโนโลยีสูง เช่น Gore-Tex ซึ่งสามารถกันน้ำได้ดีและระบายอากาศได้เยี่ยม เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง

วัสดุที่ใช้ทำเสื้อกันฝน
พีวีซี (PVC): พลาสติกที่นิยมใช้ในการทำเสื้อกันฝน ราคาถูก แต่ไม่ค่อยระบายอากาศ

ไนลอน: วัสดุที่น้ำหนักเบาและทนทาน มักจะเคลือบด้วยสารกันน้ำ

โพลีเอสเตอร์: วัสดุที่ทนทานและมีความยืดหยุ่น มักจะเคลือบด้วยสารกันน้ำเช่นกัน

ยางพารา: วัสดุธรรมชาติที่ทนทานและกันน้ำได้ดี แต่มีน้ำหนักมากและไม่ระบายอากาศ

Gore-Tex: วัสดุเทคโนโลยีสูงที่มีคุณสมบัติกันน้ำและระบายอากาศได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

เคล็ดลับในการเลือกซื้อเสื้อกันฝน
ความสามารถในการกันน้ำ: ตรวจสอบว่าเสื้อกันฝนสามารถกันน้ำได้ดีและมีการซีลตะเข็บเพื่อป้องกันน้ำรั่ว

การระบายอากาศ: เลือกเสื้อกันฝนที่มีความสามารถในการระบายอากาศ เพื่อป้องกันความชื้นสะสมภายใน

ขนาดและความสะดวกสบาย: เลือกขนาดที่พอดีตัวและสามารถสวมใส่ได้สบาย อย่าลืมลองสวมใส่กับเสื้อผ้าชั้นในเพื่อดูว่ามีความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว

การพับเก็บและการพกพา: เสื้อกันฝนที่พับเก็บได้สะดวกและมีน้ำหนักเบาจะทำให้การพกพาไปใช้งานได้ง่ายขึ้น

ดีไซน์และสไตล์: เลือกดีไซน์ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ หากคุณใช้งานในเมือง เลือกเสื้อกันฝนแฟชั่นที่มีสไตล์ แต่หากใช้งานกลางแจ้ง เลือกเสื้อกันฝนที่มีคุณสมบัติเทคนิคสูง

การดูแลรักษาเสื้อกันฝน
ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ: ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกและคราบสกปรกทุกครั้งหลังการใช้งาน

การเก็บรักษา: เก็บเสื้อกันฝนในที่แห้งและเย็น ไม่ควรเก็บในที่อับชื้นเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราและกลิ่นอับ

การซักล้าง: หากเสื้อกันฝนสามารถซักได้ ให้ซักด้วยมือหรือตามคำแนะนำของผู้ผลิต เพื่อรักษาคุณสมบัติการกันน้ำ

การตรวจสอบความเสียหาย: ตรวจสอบเสื้อกันฝนอย่างสม่ำเสมอว่ามีรอยขาดหรือซีลที่เสียหาย เพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำ

เสื้อกันฝนเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการป้องกันตัวเองจากสภาพอากาศไม่พึงประสงค์ การเลือกเสื้อกันฝนที่เหมาะสมกับการใช้งานและดูแลรักษาอย่างถูกวิธี จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเสื้อกันฝนและทำให้คุณพร้อมเผชิญกับสภาพอากาศทุกประเภทครับ